
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า บ่อยครั้งที่มักได้ยินข่าวอุบัติภัยจากการปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพัง เพราะความประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายร้ายแรงกับเด็ก เพื่อความปลอดภัย ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็ก
อยู่ในรถที่สตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ตามลำพัง และต้องดึงเบรกมือขึ้น เพื่อป้องกันเด็กเผลอไปเลื่อน ผลักหรือกดปุ่มคันเกียร์เล่น ทำให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่มีผู้ควบคุม และหากเด็กเหยียบคันเร่งเล่น จะยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงมากขึ้น และรถส่วนใหญ่มักมีที่จุดบุหรี่ในรถ หากเด็กไปกดปุ่มและดึงออกมาเล่น หรือนำวัสดุที่ติดไฟง่าย หรือนิ้วแหย่ที่จุดบุหรี่ จะทำให้ได้รับอันตรายจากขดลวดความร้อน
นอกจากนี้ แม้การสตาร์ทเครื่องยนต์และเปิดที่ปรับอากาศภายในรถทิ้งไว้ จะทำให้เด็กรู้สึกเย็นสบาย แต่ก๊าซคาร์บอนมอนน็อคไซด์จากท่อไอเสียอาจรั่วไหลเข้ามาในรถยนต์ หากปล่อยเด็กไว้ในรถเป็นเวลานาน เด็กจะสูดดมก๊าซพิษเข้าสู่ร่างกาย และหากเด็กเผลอหลับ อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ดังนั้น ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ในรถเพียงลำพัง ควรมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องออกไปทำธุระ ไม่ควรให้เด็กอยู่ในรถเป็นเวลานาน ให้ดับเครื่องยนต์ ลดระดับกระจกรถลงมาข้างละประมาณ 2 –3 นิ้ว เพื่อให้อากาศภายในห้องโดยสารถ่ายเทสะดวก ดึงเบรคมือและปิดปุ่มที่จุดบุหรี่ในรถ พร้อมเตรียมกุญแจรถสำรองไว้
ทั้งนี้ ผู้ปกครอง ควรพึงระลึกอยู่เสมอว่า เด็กไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือตนเองจากเหตุฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัย การปล่อยเด็กไว้ในรถตามลำพังอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้